งงไปอีกกับสายเลขรถเมล์แบบใหม่

bus-auto-pic

หากใครที่ใช้บริการรถประจำทางหรือรถเมล์อยู่ทุกวันจะคุ้นเคยกับตัวเลขบอกสายรถเมล์ว่าสายไหนไปที่ไหน แล้วเราก็มักจะจำตามนั้นมาโดยตลอด แต่เมื่อเร็วๆ นี้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ออกมาเปิดเผยถึงการปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถเมล์ใหม่ทั้งหมด 269 เส้นทาง รวมทั้งเปลี่ยนเลขสายรถเมล์ใหม่ จากเดิมรถเมล์สาย 24 เปลี่ยนใหม่เป็น B39,สาย 555 เปลี่ยนเป็น B53E เป็นต้น ซึ่งเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามทันทีว่า วัตถุประสงค์ในการเปลี่ยนสายคืออะไร?? เพราะโดยปกติเลขสายรถเมล์ก็จำค่อนข้างยากอยู่แล้ว ยิ่งมาเปลี่ยนลักษณะเติมตัวอักษรภาษาอังกฤษเข้าไป ยิ่งสร้างความสับสน ประกอบกับถ้าเป็นชาวบ้านที่ไม่รู้จักภาษาอังกฤษจะทำอย่างไร??

เมื่อสอบถามไปถึงสาเหตุของการเปลี่ยนเลขสายรถเมล์ อธิบดีกรมขนส่งได้ชี้แจงว่า “ในอนาคตรถเมล์จะต้องมีการรองรับและเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า, รถไฟใต้ดิน และสิ่งที่สำคัญคือการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราจึงจำเป็นที่ต้องมองระยะยาวไปอีก 5-10 ปี นอกจากนั้นเรายังต้องพัฒนาให้ประเทศไทยมีป้ายรถเมล์อัจฉริยะอีกด้วย ถ้าประชาชนกลัวว่าจะจำไม่ได้ก็ให้เปลี่ยนมาจำเป็นรถเมล์นี้วิ่งจากไหนถึงไหนแทนก็ได้”

และปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนเลขสายรถเมล์นำร่องไปแล้วบางเส้นทาง หลายคนอาจจะเคยเห็นรถเมล์ที่มีทั้งตัวเลข และตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมกันบ้างแล้วซึ่งตามแผนงานจะดำเนินการเปลี่ยนแล้วเสร็จทั้งหมดในระยะเวลา 2 ปี แต่ในช่วง 2 ปีนี้ก็ยังคงติดเลขใหม่กับเส้นทางควบคู่กันอยู่ ทางกรมขนส่งได้คาดการณ์ว่าใช้เวลาไม่นานประชาชนจะเริ่มรู้สึกชินและจดจำเลขสายใหม่ได้เอง เพราะก่อนที่จะทำการเปลี่ยนเลขสายรถเมล์ใหม่นี้ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีการศึกษาวิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้จะส่งผลอย่างไรกับผู้ที่ไม่รู้จักภาษาอังกฤษบ้าง และจากผลการวิเคราะห์พบว่า “ต้องขึ้นคู่กัน เช่น B2 ท่าน้ำปากเกร็ด-ท่าน้ำสี่พระยา, B31E ศรีสมาน-อนุสาวรีย์” คือการขึ้นคู่ระหว่างตัวเลขสายใหม่กับเส้นต้นทางจนถึงปลายทาง

ดังนั้นในช่วงแรกประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์อาจเกิดความสับสนและไม่มั่นใจว่าสายที่ตัวเองขึ้นจะไปยังเส้นทางที่ต้องการหรือเปล่า ฉะนั้นทางผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเองควรที่จะทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจน มีการแจ้งประกาศให้ประชาชนทรายอย่างทั่วถึง อาทิการจัดทำคู่มือ แผ่นพับ แอพพลิเคชั่นในมือถือ หรือทำป้ายแจ้งตามป้ายรถเมล์ เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้และรับทราบ หากทำได้แบบนี้คงใช้เวลาไม่นานผู้ใช้บริการน่าจะเกิดความเคยชินและหมดปัญหาต่างๆ ได้ตามอย่างที่ทางกรมขนส่งได้คาดการณ์เอาไว้